แนะนำ 5 เมนูอาหารบำรุงสายตา

เคยนับไหมคะว่าวันๆนึงเราจ้องจอกันกี่ชั่วโมง?...ไม่ว่าจะเป็นมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่แท็บเล็ต บางทีก็รู้สึกตาล้า ตาแห้ง หรือมองอะไรไม่ชัดไปหมด จะให้ลดการใช้หน้าจอก็ทำได้ยาก เพราะงานก็ต้องทำ ซีรีส์ก็ต้องดู งั้นเรามาหาวิธีเสริมสายตาให้แข็งแรงกันหน่อยค่ะ!

หนึ่งในวิธีที่ง่ายและอร่อยที่สุดก็คือ กินอาหารบำรุงสายตา เพราะอาหารบางชนิดมีวิตามินและสารอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาโดยตรง แต่ก่อนจะไปที่สูตรเมนูที่คัดมาให้แล้วว่า ทำง่าย + อร่อยชัวร์ เราไปรู้จักกันก่อนดีกว่าว่า…วิตามินตัวไหนดีต่อดวงตาของเรา 

วิตามินสำคัญที่ช่วยบำรุงสายตา มีอะไรบ้าง? 

1. วิตามินเอ (Vitamin A) - ช่วยให้มองเห็นในที่มืด และลดอาการตาแห้ง 

ยกให้เป็นตัวท็อปของการบำรุงสายตา เพราะช่วยให้ดวงตาสามารถปรับตัวในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น ใครที่ขับรถตอนกลางคืนแล้วรู้สึกมองไม่ค่อยชัด อาจเป็นสัญญาณได้ว่าขาดวิตามินเอค่ะ

2. ลูทีน และ ซีแซนทีน (Lutein & Zeaxanthin) - กรองแสงสีฟ้าและปกป้องจอประสาทตา 

สองตัวนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากในจอประสาทตา (Macula) ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้าที่มาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และแสงแดด ใครที่ใช้หน้าจอบ่อยๆ ควรเติมสารอาหารตัวนี้เข้าไปในร่างกายเยอะๆนะคะ

3. โอเมก้า-3 (Omega-3) - ลดอาการตาแห้ง และบำรุงการทำงานของประสาทตา 

โอเมก้า-3 เป็นกรดไขมันที่สำคัญต่อการทำงานของระบบประสาท รวมถึงดวงตาด้วย โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาตาแห้ง หรือทำงานในห้องแอร์นานๆ กินอาหารที่มีโอเมก้า-3 จะช่วยให้ดวงตาชุ่มชื้นขึ้น ไม่แสบตา

4. วิตามินซี (Vitamin C) - ช่วยลดความเสี่ยงของต้อกระจก 

เพื่อนๆอาจจะคิดว่าวิตามินซีช่วยให้ผิวสวยเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว ยังช่วยให้เส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงดวงตาแข็งแรงขึ้น และลดความเสี่ยงของการเกิด ต้อกระจก ที่อาจเกิดขึ้นตามอายุได้ด้วย

5. วิตามินอี (Vitamin E) - ป้องกันดวงตาจากความเสียหายของเซลล์ 

วิตามินอีทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ดวงตาไม่ให้เสื่อมเร็ว และยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ

ในเมื่อเรารู้แบบนี้ว่าอาการแบบนี้ต้องรับประทานตัวไหน ที่มีวิตามินอะไร งั้นเดี๋ยวเรามาดูเมนูที่วันนี้จัดมาให้ค่ะ รับรองว่ากินง่าย! แบบไม่ต้องฝืน! 

5 เมนูอาหารบำรุงสายตา

1. แซลมอนย่างซอสเลมอน

ขอยกตำแหน่งที่สุดของอาหารบำรุงสายตา ก็คือ แซลมอน นั่นเอง เพราะเป็นปลาที่อุดมไปด้วย โอเมก้า-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ช่วยลดอาการตาแห้ง และทำให้เซลล์ดวงตาแข็งแรงขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม ส่วนเลมอนที่มาคู่กันก็ช่วยเพิ่มวิตามินซี ทำให้หลอดเลือดฝอยรอบดวงตาแข็งแรง

วิธีทำ: แค่เอาแซลมอนไปย่างบนกระทะ ใช้ไฟกลางๆ รอให้หนังกรอบ ใส่เกลือ พริกไทย แล้วบีบเลมอนลงไปนิดหน่อย กินคู่กับสลัดผักสด ก็ได้มื้ออร่อยที่ทำง่ายมาก!

2. ผัดผักใบเขียวรวมมิตร 

สายเฮลท์ตี้ต้องลอง ถ้าคิดว่า “กินผักแล้วตาสดใส” เป็นเรื่องโกหก ต้องลองกินจริงๆ แล้วจะรู้ว่ามันเวิร์ค! ผักใบเขียวอย่าง คะน้า ผักโขม และบล็อกโคลี มี ลูทีนและซีแซนทีน สูง ซึ่งช่วยกรองแสงสีฟ้า และป้องกันโรคต้อกระจก

วิธีทำ: ผัดผักกับกระเทียมและน้ำมันมะกอกนิดหน่อย ใช้ไฟแรง ผัดเร็วๆ แค่ให้ผักสลดก็พอ จะได้เก็บสารอาหารไว้เยอะๆ กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือเป็นเครื่องเคียงกับเมนูอื่นก็เข้ากันสุดๆ

3. ซุปฟักทองใส่นมสด 

ฟักทองอุดมไปด้วย เบต้าแคโรทีน ที่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็น วิตามินเอ ซึ่งช่วยลดอาการตาแห้ง ทำให้การมองเห็นในที่มืดดีขึ้น และยังช่วยให้กระจกตาแข็งแรงขึ้นด้วย

วิธีทำ: เอาฟักทองไปต้มกับน้ำซุป เติมหอมใหญ่สับละเอียดเพื่อเพิ่มความหอม เมื่อทุกอย่างนิ่มดีแล้วก็นำไปปั่นจนเนียน เทกลับลงหม้อ เติมนมสดหรือนมอัลมอนด์ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยหน่อยๆ ได้ซุปหอมๆ กินอุ่นๆ ดีต่อทั้งสายตาและระบบย่อยอาหาร

4. ไข่ลวกกับอะโวคาโด 

ใครชอบอาหารทำง่ายๆ แต่ได้สารอาหารแบบเต็มๆ ต้องเมนูนี้เลย ไข่แดง มี ลูทีนและซีแซนทีน ส่วน อะโวคาโด ก็เป็นแหล่งของไขมันดีที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารอื่นๆ ได้ดีขึ้น

วิธีทำ: แค่ต้มไข่ให้เป็นไข่ลวก หรือทำไข่ต้มแบบไข่แดงเยิ้มๆ หั่นอะโวคาโดเป็นชิ้น กินคู่กัน หรือจะบดอะโวคาโดทาบนขนมปังโฮลวีท แล้วโปะไข่ลวกด้านบน โรยเกลือ พริกไทยนิดหน่อย ฟินสุด!

5. น้ำบลูเบอร์รี่ปั่น

บลูเบอร์รี่มี แอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายของจอประสาทตา และช่วยลดอาการตาล้า แถมยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังดวงตา ทำให้ตาสดใสขึ้น

วิธีทำ: ปั่นบลูเบอร์รี่กับนมอัลมอนด์ หรือโยเกิร์ต เติมน้ำผึ้งนิดหน่อย เพิ่มความหวานแบบธรรมชาติ แช่เย็นแล้วดื่มชื่นใจสุดๆ

เพื่อนๆไม่จำเป็นจะต้องทำตามสูตรเป๊ะๆนะคะ สามารถตัดแปลงได้ตามความชอบของแต่ละบุคคลได้เลย แค่ทานอาหารบำรุงสายตาก็ถือว่ามาถูกทางแล้ว แต่ถ้าอยากให้ดวงตาสดใสไปนานๆ การปรับพฤติกรรมการใช้สายตาก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น พักสายตาทุก 20 นาทีเมื่อใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันอาการตาแห้ง ใส่แว่นกรองแสงเมื่อต้องทำงานหน้าจอ และหลีกเลี่ยงการขยี้ตาบ่อยๆ เพราะอาจทำให้ดวงตาระคายเคืองหรือติดเชื้อได้

หากท่านใดสนใจอยากตรวจสุขภาพดวงตา ทาง lasikk แนะนำให้เข้ามา check-up กับเราได้ที่รพ.พญาไท 3, รพ. กรุงเทพ-พัทยา, รพ. วิภาวดี หรือถ้าใครไม่สะดวกเดินทางเราก็มีช่องทางออนไลน์ให้ปรึกษาได้ค่ะ ที่ https://www.lasikbkk.com/17479819/ปรึกษาปัญหาสายตา หรือ สายด่วน 080-782-2020 ยินดีบริการด้วยใจเสมอค่ะ